15ชม. ปั่นจักรยานชมอยุธยา

ทริปนี้ก็ปุบปับอีกครั้ง นัดกันวันอังคารไม่ก้พุธ เปิดเทอมมาก็ไปเที่ยวเลยดีกว่า

คิดว่าจะไปรถไฟเหมือนเดิมเพราะถูกดี แถมได้ live a moment ด้วย

เริ่มจากนัดกันตอนหกครึ่งที่หลังมอ เพราะว่าจะนั่งรถไฟสถานีพระราชวังสนามจันทร์ไปลงสถานีนครปฐม จะได้ไม่เปลืองค่าวิน

สรุปไปถึงสถานีประมาณ6.40 แล้วรถไฟที่จะมาเทียบท่าเร็วสุดคือ 6.20 และ 8.45 ตามลำดับ
และตอนนี้ก็คือตกรถนั่นเอง

เอาไงดี เอาไงดี เดินข้ามอีกฝั่งของรางรถไฟ ไปหาวินฝั่งนู้นละกัน เดิน เดิน เดิน ไม่มีวี่แวววินสักคัน เจอหมา ต้องหลบหมาอีก เหมือนhomeless ไม่ก็พึ่งสร่างเมาแล้วมาเดินข้างถนนตอนเจ็ดโมง มีพระมาเดินบิณทบาต เรื่องที่ไม่ค่อยเห็นก็คือ มีร้านขายของใส่บาตรแบบเป็นกิจลักษณะเลย สำหรับเราคือแปลก และไม่ชิน เพราะชินกับที่การที่แม่เตรียมของใส่บาตรเอง

เดินไปเรื่อยๆ หมาเห่า เอ้ย แล้วเสียงอะไรอีกนะ ดังมา ดังมา เสียงรถไฟ พรืด พรืดด ผ่านไปต่อหน้าต่อตาด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับเสียงกรีดร้องของเด็กๆ ทั้งสี่คน

แล้วก็เห้ออ เราตกรถแล้วววว

เจอพี่วินก็เลยนั่งไปสถานีนครปฐม 20 บาท ระยะทางไกลมากเด้อ เดินมาต้องขาดใจก่อน

ถึงสถานีปุ๊บ รีบวิ่งไปซื้อตั๋ว คนขายบอกมีรอบ8.48เด้อหนู อีกหนึ่งชม. เอาค่ะเอา มาถึงขนาดนี้ละ

แล้วก็นั่งรอเวลา รถมา หาข้าวกินกัน สบายใจ

และถ่ายรูปกับน้องหนังสือ ผู้ร่วมทริปวันนี้ Eleanor and Park อ่านหนังสือเพลินจนบางทีก็แบบนี่นั่งรถไฟมาหนึ่งชม.ละหรอ ครั้งนี้ถ่ายรูปน้อยกว่าทริปก่อนมาก เพราะอยากใช้สมองจดจำบ้าง

นี่คือสถานีที่ใหม่ที่สุดเท่าที่เคยผ่านมา สภาพเหมือนเดินอยู่ในดอนเมือง

พอถึงสถานีบางซื่อ ก็เดินไปซื้อตั๋ว แถมเดินผิด เดินไปช่องส่งสินค้าอีก พอเดินกลับไปซื้อตั๋ว ก็ไฟดับอีก ต้องไปช่องอื่น

เอ้อ ซื้อเสร็จก็ขึ้นเลย ตอนนั้นต้องการน้ำปั่นมาก เพราะไม่สดชื่นเลย ต้องทำตัวเองให้เฟรช หาที่นั่งที่นั่งได้สี่คน ดึงกระจกก็ดึงไม่เป็น ชมวิว ชมถนนกรุงเทพที่รถติด ยังจำได้อยู่ผ่านสถานีบางเขน หลักสี่ ดอนเมือง แล้วก็เริ่มอ่านหนังสือต่อ สักพัก เอ้าถึงอยุธยาและเด้อ

ขายหนังสือagain

พอถึงก็ระลึกถึงกระทุ้ที่อ่านมา เดินออกมา จะเจอกับท่าเรือข้ามฟาก เข้าเมือง แล้วตอนไปถึงก็เจอร้านเช่าจักรยานบึมเลย แต่ก็อดใจไว้ก่อน เที่ยวตามกระทู้อิอิ

ถึงท่าเรือปุ๊บ ค่าข้ามฟากห้าบาท แล้วทางใกล้มากอะ ประมาณสองนาทีถึง

แต่แต่แต่ข้างบนเรือเขียนว่าโดยสารประมาณสิบหกคน แต่บนเรือคือมีประมาณสิบหกx5 แน่นมาก ทั้งนั่งทั้งยืน เอาไงดีวะ ขึ้นดีมะ สรุปก็ขึ้น แต่หนูก็ยังไม่อยากตายเด้อ พี่คนขับก็บอกจะยืนขวางทำไม ขึ้นๆ มาเลยหนูเอ้ย เอ้อกรี้ดๆ กันไป เห็นผักตบใกล้ชนิกที่ว่าหยิบมาปาใส่หน้าเพื่อนได้เลย

ถึงอีกฝั่งก็เดินดุ่มๆ ไปจ้า จนกว่าจะถึงธนาคารธกส. เพราะมีร้านเช่าจักรยานอยู่ตรงนั้น แล้วผ่านห้างชื่ออัมพร อยากกินพิซซ่ามากเลย ซื้อ1แถม1ด้วย แต่อดใจไว้อยู่

ไปถึงร้านเช่าก็ลองจักรยาน ค่าเช่าห้าสิบบาท ลองแล้วลองอีก เป้าหมายในวันนี้คือเป็นนักแสดง Stranger Things แต่หลังจากปั่นมาแล้วทั้งวันก็ไม่ได้ใกล้เคียงเลย5555 เช่าเสร็จก็จะได้แผนที่รอบเมือง กุญแจล็อก แต่พอล็อกแล้วก็ล็อกไม่ได้ ให้มาเพื่อออ?

แล้วก็เริ่มปั่นเลย พี่เขาก็บอกทางก่อน ว่าร้านไหนอร่อย แล้วจากนั้นก็ปั่นสด ปั่นเอง หลงเอง

แถมเจอฝรั่งงงงงง ถอดเสื้อแบบแซ่บมาก อยากจะปั่นตาม แต่ตอนนั้นสั่งน้ำอยู่ โอ้ยอุปสรรคตลอดเลย

แต่ทริปนี้ได้คุยกับชาวต่างชาติด้วย แบบเดินเข้าไปคุยเลย เพราะเจอเขาหลายที่แล้ว น่าจะมาจากโปรตุเกส จินตนาการจากสำเนียงและมันสมองของชั้น แล้วก็ชวนเขาคุยว่ามาคนเดียวหรอ ไม่รู้จะถามไร เขาก็ถามกลับนะ ว่าแล้วเป็นคนที่ไหน เอ้ออ หน้าชั้นไม่เหมือนคนไทยหรอ ก็บอกI live in here, I am Thai. แล้วก็คุยบลาบลาและก็แยกย้ายกัน

คุณเสื้อแดงด้านหลังที่เข้าไปทักทาย แต่ไม่ใช่ตรงนี้ ทักอีกวัดนึง

วัดแรกของเราคือ วัดราชบูรณะ ค่าเข้าสิบบาท

ฉันและแผนที่ กับหน้าที่ไกด์จำเป็น

ปีนเจดีย์ขึ้นมา

ขึ้นมาก่อนเพื่อนๆ เพราะมาถ่ายรูป บันไดสูง และชั้นเหมือนวิญญาณของรูปนี้

รูปนี้คือหนูโฟกัสอะไรลูก

จุดที่น่าสนใจของวันนี้นอกจากสถาปัตยกรรมเก่าแล้ว จะมีหลุมลึกลงไป ที่อับมาก แบบหายใจไม่ออก บันไดชัน คาดว่าจะเป็นช่องเก็บสมบัติ ทาส เชลย หรืออะไรสักอย่าง มาเที่ยวแบบไม่มีความรู้ใดใด ฟังคนอื่นพูดเอาซึ่งก็ไม่ได้ความอะไรอยู่ดี

ภาพบนผนัง ไม่รู้พึ่งมาวาดหรือเปล่า

นี่คือหลุม และบันไดชันๆ

ข้างใน ไม่มีอะไรเลย แต่ก็ต้องลงเพราะจะได้สัมผัสด้วยตัวเองไง

ต่อไปวัดมหาธาตุ ที่คนเยอะแบบแสนแปด ค่าเข้าคนไทยสิบบาท ฝรั่งห้าสิบ

ทุกคนเข้ามาดูพระตรงนี้

และชั้นที่ทำหน้ารับบุญ ใสใส

คนเยอะเพราะเป็นวัดใหญ่ กว้าง ห้องน้ำมีแบบสิบบาทและห้าบาทให้เลือกตามความหนักของกระเป๋า

และเมื่อไม่อะไรทำ ก็ถ่ายรูปเด้อ

น้องหมานอนหลับสบาย มีความสุขcontrastกับความวุ่นวายตรงนี้

แล้วปั่นจักรยานประมาณอีกครึ่งชม. สู่วัดพระนอน ไม่เสียค่าเข้า

ตรงนี้ก็ไม่รู้ประวัติเช่นกัน ฟังเอาจากไกด์คนจีน ไปตล่อมๆ แอบฟังเอา

วัดสุดท้าย วัดพระศรีสรรเพชร ไม่ได้เข้า มองอยู่ด้านนอก

เสร็จก็ปั่นกลับไปอีกฝั่งนึง ปั่นกลับนั่นเอง เพื่อจะเอาจักยานไปคืน ปั่นปั่นปั่น แบบปั่นจักรยานเพื่อครายยย แล้วก็ดูตามแผนที่ไปนั่นแหละ สักพักทางมันบอกให้ตรงไป แต่ถนนจริงมันตรงไม่ได้ ก็เลยคิดว่า อะหลงและแน่นอน เผอิญจอดหน้าป้อมตำรวจพอดี สอบถามซะหน่อย แล้วก็เขาไปนั่งข้างใน เพราะมันร้อน แล้วเขาก็ให้เข้า มีน้ำให้กิน มีแอร์ด้วย เลิฟฟ ลุงเปลี่ยนมุมมองตำรวจไปเลยอะ แล้วก็แอบคิดในใจว่าเขาคงเหงาอยู่แต่ในป้อม คิดแทนตัวเขาไปอี้ก เพราะเขาถามดี สอบถามทุกอย่างอะ แบบชวนคุยไรงี้ แล้วก็บอกทางให้เรียบร้อย เหมือนได้รับความช่วยเหลือที่ไม่สูญเปล่าอะ

อะเล่าก่อน ตอนแรกที่ถามก็เอาแผนที่ให้เขาดูละก็บอกหนูต้องไปตรงนี้ค่ะ เขาถามถนนอะไรก็แบบ หนูจะรู้ไหมลุง ก็อ่านตามแผนที่ ลุงก็ยังงง แล้วก็อ่านแผนที่  แล้วลุงก็ใส่แว่น แล้วก็ถามอีก เอ้อแล้วก็บอกไปธกส.อะลุง ลุงก็ถึงบางอ้อ บางอ้อย บางตะไคร้เลย55555555 แล้วก็คิดในใจถ้าเกิดมันมีหลายที่ละ แต่ก็ไม่ได้ถาม เก็บไว้ในใจ แล้วก็คิดถึงว่าทำธุรกิจนี่ต้องทำใกล้ๆ กับสถานที่สำคัญเนาะ จะได้จำง่าย 

พักเสร็จ คุณตำรวจก็บอกอะไปละหรอ บอกไปแล้วค่ะ ปั่นอีก ปั่นแบบอะชั้นต้องเลี้ยวตรงทางม้าลายนะ เรียนรู้อะไรอีกหลายๆ อย่างเลย ตอนนี้และการเป็นนักท่องเที่ยวก็ดีเหมือนกัน ถามคนอื่น คุยกับเขาไปทั่ว ยิ้มใส่ทุกคน วันนี้ชั้นมีความสุขมากๆ

พอถึงร้านเช่าจักรยานก็เอ้า กุญแจหาย ตกกลางทาง ต้องปั่นไปเอาที่อีกฝั่งนึง ก็เออไม่เป็นไร แล้วก็เจอร้านน้ำเต้าหู้ แล้วก็ควักเงินในกระเป๋ากางเกงมีทั้งหมด16บาท กินได้แค่น้ำ ซื้อขนมปังสังขยาก็ไม่ได้ รวมเงินกับเพื่อนอีกคนก็ยังซื้อไม่ได้ เห้ออ ทำไมไม่เอากระเป๋าเงินมานะ แล้วก็เข้าใจชีวิต เออโอเวอร์มาก

เสร็จแล้วก็ข่ามฝั่งกลับ ต้องไปสถานีรถไฟให้ทันรถเที่ยว18.08 แต่ก็ไม่ทัน ได้ตั๋วเที่ยว18.48จะถึงบางซื่อ20.14 คิดไม่ตก เพราะนั่งรถกลับยังไงก็จะถึงมอช้า เพราะเที่ยวบางซื่อไปนครปฐมมาอีกที 23.11โอ้ยยยย จะทำยังไง คิดสามแปดวิธี ไปลงกรุงเทพ ต่อรถเมล์ นั่งแท็กซี่ สรุปได้ว่านั่งรถตู้ไปละกัน เพื่อนโทรถามเพื่อนที่อยู่อยุธยาอีกที ละก็จองรถตู้ไว้สี่ที่ เหมาตุ๊กๆไป100  คนละ25 ค่ารถตู้อีกคนละ70  เพราะถึงสายใต้เก่าเลย แล้วค่อยต่อรถที่สายใต้เก่ากลับมอ เห้ออ รอดไปอีกหนึ่งตลบ (เสียค่ารถไฟ14บาทฟรีๆ)

ถึงมอประมาณ21.30

สรุปใช้เวลาเที่ยวสิบห้าชม. จริงๆ ตั้งแต่6.00-21.00 แต่ฉันยังสบาดี ไม่ปวดหัวใดใด

ค่าใช้จ่าย

• ค่าเดินทาง 216
• ค่าอาหาร 192
• ห้องน้ำ 9
• ค่าเข้าวัด 20
• ค่าเช่าจักรยาน 50
• รวม 487  ตั้งงบไว้ไม่เกินห้าร้อย ถือว่าสำเร็จ✔

หัวหน้าทัวร์และลูกทัวร์จีนของเธอ

ข้างๆ คือบึงพระงาม ที่เหมือนจะมีจระเข้า หรือตัวเงินตัวทองที่ว่ายอยู่ในน้ำ ตัวค่อนข้างใหญ่มากก
กับสะพานโค้งที่ต้องเข็นจักรยานขึ้น คาดว่าน่าจะเริ่มหลงทางกลับตั้งแต่เลี้ยวเข้ามาตรงนี้ lost track